หนังใหม่ที่เอ็กซ์คลูซีพฉายเฉพาะที่ทรูไอดีในสุดสัปดาห์นี้ก็คือ “Gunpowder Milkshake” (นรกเรียกแม่) หนังแอคชั่นบู๊ล้างผลาญที่เป็นการรวมพลังหญิงในการจับคว้าปืนออกมาระรัวยิงใส่อีกฝ่ายอย่างดุเด็ดเผ็ดใหม่ ด้วยการใช้สูตรเดียวกันที่หนังระห่ำชื่อดังอย่าง John Wick ที่การันตีความมันส์และเดือดาลที่กลั่นกรองออกมาเป็นความบันเทิงชนิดที่นั่งไม่ติดเก้าอี้
Gunpowder Milkshake เป็นเรื่องราวการโคจรมาเจอกันระหว่างสองแม่ลูกมือสังหาร แซม และ สการ์เล็ต เพื่อล้างบางแก๊งอาชญากรสุดเหี้ยม หลังจากที่สการ์เล็ตทิ้งแซมไปตั้งแต่อายุ 12 เธอถูกดูแลภายใต้องค์กรลับที่ชื่อ “The Firm” แซมเดินตามรอย และกลายมาเป็นนักฆ่าขาโหดอันดับหนึ่งตามแม่ของเธอ
แต่เรื่องราวกลับเลวร้าย เมื่อภารกิจล่าสุดทำให้เธอต้องเลือกระหว่างความจงรักภักดีต่อ The Firm และการปกป้องเด็กบริสุทธิ์ ทางรอดเดียวของแซมคือการต้องร่วมมือกับแม่ของเธอและหน่วยงานใต้ดินที่ใช้ชื่อว่า The Librarian เพื่อปิดบัญชีเลือดครั้งนี้ให้สำเร็จสมกับเป็นมือหนึ่งแห่งโลกนักฆ่า
หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ “นาโวต ปาปูชาโด” นักสร้างหนังดาวรุ่งชาวอิสราเอล ที่กำลังเริ่มมีผลงานอันโดดเด่นในฮอลลิวูด แม้ว่าจะน่าเสียดายไปสักหน่อยที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีโอกาสลงโรงฉายตามที่วางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรก เพราะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด-19 และต้องเลื่อนฉายหลายรอบ แต่ความมันส์บนหน้าจอทรูไอดีก็ไม่ได้ลดหลั่งลงไปเลย
Gunpowder Milkshake เป็นหนังแอคชั่นดีเดือดเลือดสาดตามสไตล์และหยิบใช้สูตรสำเร็จเดิมๆ ที่เคยเห็นจากหนังแบบ John Wick หรือ Atomic Blonde มาใช้ แต่ลดความขึงขังและใส่อารมณ์ขันเข้าไปนิดหน่อย แต่น่าเสียดายที่หนังบู๊แนวนี้เริ่มกลายเป็นความซ้ำซากจำเจในวงการหนังปัจจุบันไปเสียแล้ว จึงทำให้งานสร้างและองค์ประกอบฉากบู๊ต่างๆ ของหนังที่ทำออกมาได้ดี กลับยังไม่ค่อยน่าดึงดูดใจและตื่นตาสักเท่าไหร่ เพราะเป็นสิ่งที่คนดูเคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น
บทหนังก็ค่อนข้างจะใช้ความพื้นเพและเบาบางไปสักนิด โครงเรื่องมีแค่เพียงหยิบมือเดียว และก็ขาดมิติในเรื่องราว จึงทำให้โครงสร้างทั้งหมดดูเป็นหนังบู๊ที่ค่อนข้างจืดจางไปหน่อย แม้ว่าจะยังโชคดีที่ได้ฉากแอคชั่นและดีไซน์การออกแบบฉากบู๊ในหลายๆ ซีนเข้ามาช่วยพยุงภาพรวมของหนังเอาไว้ได้ทันท่วงที จึงไม่ได้ทำให้หนังดูย่ำแย่ แต่กลับดูได้เพลินๆ ไปตลอดเรื่อง
ในด้านการแสดงก็ถือว่าได้ทีมนักแสดงหญิงชุดใหญ่ไปกะพริบมาเป็นของดี ไม่ว่าจะเป็น “คาเรน กิลเลน” ที่โดดเด่นและออร่าดี แต่เธอก็เกือบจะแบกรับหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้ไม่อยู่เพียงลำพัง นับว่าเคราะห์ดีที่ยังมีพลังหญิง “ลีน่า เฮดี้”, “แองเจล่า แบสเซ็ตต์”, “คาร์ล่า กูจิโน่” และ “มิเชลล์ โหยว” มาช่วยสมทบและประคองหนังเรื่องนี้เอาไว้ แม้ว่าคาแรกเตอร์แทบจะมาแค่เป็นตัวประกอบเฉยๆ เท่านั้น และหนังไม่ได้ให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ นอกจากจะเป็นแค่ตัวช่วย
เอาเป็นว่าโดยภาพรวม Gunpowder Milkshake ก็จัดได้ว่ายังเป็นหนังแอคชั่นมันส์สะใจที่ดูได้เพลินและเอ็นจอยได้เป็นอย่างดี หนังใช้สูตรสำเร็จที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ทำออกมาได้เข้าถึงคนดู แม้ว่ารายละเอียดต่างๆ จะยังทำไม่ถึงขั้นคำว่าสมบูรณ์แบบก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้ก็คุ้มค่าแก่การเสียเงินแลกกับความบันเทิงสะใจที่จะได้รับกับภาพฉากแอคชั่นที่บรรจงออกแบบมาอย่างดีงามไปตลอดทั้งเรื่อง
